
400ปี กล้องโทรทรรศน์ กาลิเลโอ
เมื่อ 400 ปีก่อน ในราวปี ค.ศ. 1609 กาลิเลโอ กาลิเลอี (Galileo Galilei) นักวิทยาศาสตร์ นักคณิตศาสตร์ นักฟิสิกส์ และนักดาราศาสตร์ชาวอิตาลีชื่อก้องโลก ได้บุกเบิกการสำรวจท้องฟ้าด้วย กล้องโทรทรรศน์ กำลังขยาย 30 เท่า เป็นกล้องดูดาวแบบหักเหแสงที่เขาประดิษฐ์เองอย่างง่ายๆ ส่องสำรวจจักรวาลเป็นครั้งแรก โดยเขาสำรวจดวงจันทร์, ดาวพฤหัส และค้นพบดาวบริวารทั้งสี่ของดาวพฤหัส และเสนอทฤษฎีที่ว่า โลกกลม ...นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการเริ่มสำรวจจักรวาลโดยใช้กล้องโทรทรรศน์ และนำมาซึ่งการค้นพบสำคัญๆ อีกมากมาย
ทั้งนี้ กล้องโทรทรรศน์ ดังกล่าว ถูกเรียกเพื่อเป็นเกียรติแก่ กาลิเลโอ ว่า "กล้องดูดาวแบบกาลิเลโอ" (Galileo's Telescope) สำหรับกล้องโทรทรรศน์หักเหแสงของกาลิเลโอนั้น เลนส์วัตถุจะเป็นเลนส์นูน และเลนส์ตาจะเป็นจากเลนส์เว้า ข้อดีของการใช้ระบบเลนส์แบบนี้คือ ภาพที่ได้จะเป็นภาพหัวตั้งโดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์อื่นมาช่วย แต่ข้อเสียของการใช้เลนส์เว้าเป็นเลนส์ตาคือ ระบบกล้องจะมีมุมมองภาพที่แคบมาก
อย่างไรก็ดี การเพิ่มกำลังขยายของ กล้องดูดาวแบบกาลิเลโอ หรือกล้องโทรทรรศน์แบบหักเหแสงนี้ จะแปรผันตามระยะโฟกัสของเลนส์วัตถุ นั่นคือ การทำให้กำลังขยายของกล้องดูดาวเพิ่มขึ้น ระยะโฟกัสจะต้องมากขึ้น เลนส์ก็ต้องมีขนาดใหญ่ขึ้น และความยาวของกล้อง ก็ต้องมากตามไปด้วย ทำให้มีข้อจำกัดของกล้องประเภทนี้ อยู่ที่ความยาวของตัวมันเอง เนื่องจากเมื่อของเส้นผ่านศูนย์กลางเลนส์ เกิน 1 เมตรแล้ว มันจะรับน้ำหนักของตัวมันเองไม่ไหวนั่นเอง
ต่อมา โยฮันเนส เคปเลอร์ ได้พยายามต่อยอดความคิดของ กาลิเลโอ โดยใช้เลนส์นูนเป็นเลนส์ตาของกล้องโทรทรรศน์แทน ซึ่งทำให้ระบบกล้องโทรทรรศน์ให้ภาพกลับหัว และมีมุมมองภาพกว้างขึ้น ระบบเลนส์แบบนี้ได้ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และใช้งานมาจนถึงปัจจุบัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น