วันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

รับมือกับ Jet lag


รับมือกับ Jet lag

ฤดูนี้อาจเรียกได้ว่าเป็นฤดูท่องเที่ยว หลายคนตัดสินใจเดินทางไปในประเทศที่มีอากาศหนาว หากต้องเดินทางไปในที่ไกล ๆ ก็มักจะต้องประสบกับอาการแปลก ๆ หลังจากข้ามทวีปหรือข้ามโซนของเวลาหลาย ๆ โซน คือ รู้สึกง่วงนอน อ่อนเพลีย ไม่สบายตัว รู้สึกหดหู่ นอนไม่หลับ ฉุนเฉียวง่าย เกิดความสับสน และบางทีอาจสูญเสียความจำไป อาการเหล่านี้เราเรียกกันว่า "Jet lag" นั่นเอง นอกจากอาการเหล่านี้ ยังมีการเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ เกิดขึ้นกับหน้าที่พื้นฐานต่างๆของร่างกายด้วย เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ ความดันเลือด และกระบวนการหายใจอีกด้วย

Jet lag เป็นอาการที่ทำให้รู้สึกแย่มาก เมื่อเราต้องเดินทางข้ามเส้นแบ่งโซนของเวลาตั้งแต่ 4 โซนขึ้นไป หรือเมื่อเราหลงเวลาในการเดินทางจากตะวันออกไปยังตะวันตก การฟื้นคืนจากอาการ jet lag จะต้องใช้เวลาในอัตราส่วนประมาณ 1 โซนต่อ 1 วัน (เช่นถ้าเราข้ามโซนของเวลา 4 โซน ต้องใช้การฟื้นตัวประมาณ 4 วัน) อย่างชัดเจน อาการ jet lag สามารถที่จะหยุดชะงักความสนุกสนาน หรือความกระตือรือร้นของเราให้จืดจางลงไป ได้ อาจมีผลกระทบต่อการทำงานสำหรับนักธุรกิจที่ต้องเดินทางเพื่อธุรกิจ วันนี้ "ไทยรัฐออนไลน์" มีวิธีลดอาการต่าง ๆ ที่เกิดจาก Jet Lag ของศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู โรงพยาบาลเวชธานี มาฝาก

ก่อนการเดินทาง

ควบคุมเวลาอาหารของเรา เพื่อว่าในวันที่เราต้องบิน เราจะได้พร้อมที่จะกินอาหารที่เหมาะสมกับเวลา ณ จุดหมายปลายทางของเรา ควบคุมตารางเวลาการนอนและการพักผ่อนของเราเอาไว้ เพื่อจะได้ไม่ต้องตึงเครียด หรือเกิดอาการเมื่อเริ่มต้นการเดินทางอันยาวนาน

ช่วงระหว่างการบิน

แต่งตัวสบาย ๆ และพยายามปลดเสื้อผ้าที่รัดออก ปรับเข็มนาฬิกาโดยตั้งเวลาของนาฬิกาตามจุดหมายปลายทางของเรา และเริ่มต้นทำตัวให้ดำเนินชีวิตอยู่กับเวลานั้นในใจ ถ้าหากว่าเวลาในจุดหมายปลายทางของเรา เป็นช่วงเวลาที่เรามักจะวิ่งจ็อกกิ้งเสมอ ก็ให้จินตนาการว่ากำลังวิ่งจ็อกกิ้งอยู่ เราอาจพยายามออกกำลังกายบางอย่างด้วยก็ได้ในที่นั่ง เช่น อาจจะโน้มคอไปข้างหลังสัก 5 ครั้งเพื่อบริหารคอและบริหารกล้ามเนื้อแผ่นหลังด้านบน หรืออาจจะเบ่งและผ่อนคลายหน้าอก ท้อง และสะโพกสัก 5 ครั้ง กินอาหารเบาไม่หนักท้องมากและถ้าเป็นไปได้ ให้กินอาหารที่เหมาะสมกับเวลาตามเวลาในจุดหมายปลายทางที่จะไปถึง พยายามหลีกเลี่ยงพวก ลูกกวาด คาเฟอีนและพวกแอลกอฮอล์ต่าง ๆ เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำให้เราไม่ได้พักผ่อน?

ยิ่งกว่านั้นพวกคาเฟอีนและแอลกอฮอล์จะเพิ่มปฏิกิริยาต่าง ๆ ในการขจัดน้ำออกจากร่างกายของห้องผู้โดยสารที่เพิ่มความกดดัน แนะนำให้ดื่มน้ำผลไม้มาก ๆ และน้ำเปล่าแทน สำหรับนักเดินทางที่มีประสบการณ์บางคน พยายามที่จะดื่มน้ำผลไม้หนึ่งแก้ว หรือน้ำเปล่าสำหรับทุก ๆ ชั่วโมงที่พวกเขากำลังบินอยู่ ท้ายที่สุดให้นอนและตื่นขึ้นตามตารางเวลาในจุดหมายปลายทางของเรา

เมื่อคุณ ถึงที่หมาย

ให้นอนตามเวลาของท้องถิ่นนั้น ๆ ที่เราไปถึง ทั้งการกินอยู่ และการทำกิจกรรมต่าง ๆ ไปตามตารางเวลาทุกประการ หากว่าเราจะต้องนอนในช่วงระหว่างเวลากลางวัน ให้นอนน้อยกว่าสองชั่วโมงให้ออกนอกบ้านในตอนที่มีแสงสว่าง (หมายถึงเวลาเช้า เร็วเท่าที่จะทำได้สักประมาณ 2 ชั่วโมง) แสงสว่างของดวงอาทิตย์จะช่วยให้เราปรับนาฬิกาชีวภาพในร่างกายใหม่เร็วขึ้น ในท้ายที่สุด ลองดื่มนมสักแก้ว หรือกินไอศกรีมก่อนที่จะเข้านอนถ้าหากว่ามีปัญหาในเรื่องการนอน?

ข้อแนะนำข้างต้น ฟังดูแล้วอาจคล้ายกับการรักษาแบบพื้นบ้านในสมัยก่อน แต่ก็วางอยู่บนรากฐานที่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ด้วย ซึ่งผลิตภัณฑ์นมมีคุณสมบัติหลายประการ ที่มีอิทธิพลต่อความง่วงเหงาหาวนอน

คำแนะนำต่าง ๆ เหล่านี้ เป็นไปได้ที่อาจจะไม่ได้ทำให้เราสามารถเอาชนะอาการ jet lag ได้อย่างสมบูรณ์ แต่จะสามารถช่วยลดอาการที่ไม่สบายต่าง ๆ ของการเปลี่ยนแปลงเรื่องโซนเวลาของเราได้บ้าง สิ่งที่ทำงานได้ผลดีที่สุดสำหรับคนๆหนึ่งนั้น อาจไม่จำเป็นต้องได้ผลดีที่สุดสำหรับคนอีกคนหนึ่ง ด้วยเหตุนี้ขอให้คิดถึงข้อแนะนำต่าง ๆ เหล่านี้ในฐานะที่เป็นแนวทาง สำหรับพัฒนาแผนการต่าง ๆ ของตัวเราเอง เพื่อการบินที่เป็นปกติ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น